60 ปี วว. มุ่งมั่นสานพลังความร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนากับนานาประเทศ ยกระดับศักยภาพ SME ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตยั่งยืน
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมก้าวสู่ปีที่ 60 (2566) อย่างเต็มภาคภูมิกับบทพิสูจน์ที่ประจักษ์ชัดตลอด 6 ทศวรรษ ด้วยความมุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรชั้นนำระดับอาเซียน ด้านวิจัย พัฒนา และบริการด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานความร่วมมือกับนานาอารยะประเทศ ต่อยอดสู่การประยุกต์ใช้ในเชิงอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ชุมชน และวิสาหกิจขนาดกลาง ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดเผยว่า “ในฐานะที่ วว. เป็นองค์กรวิจัยพัฒนา จึงมุ่งให้ความสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยพัฒนาที่มีผลกระทบสูงต่ออุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ผ่านการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในการทำงาน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงบูรณาการ โดยอยู่บนฐานของทรัพยากรชีวภาพ (Bio-based) เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ตอบสนองการขับเคลื่อนประเทศ และเศรษฐกิจฐานราก ชุมชน และประชาชนเชิงพื้นที่ (Area based) สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำ”
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา กล่าวต่อไปว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา วว. ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้าน เป็นต้นว่า
1.งานพัฒนาการวิจัยและการบริการให้คำปรึกษาการสร้างนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ โรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร หรือ FISP (Food Innovation Service Plant) ได้รับการรับรองด้านกระบวนการผลิตที่ดีเยี่ยมจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ช่วย SMEs และ Start-Up จัดหาอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม โปรตีนทางเลือก รวมถึง การบริการดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับจำหน่าย, บริการวิเคราะห์ และทดสอบผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ ทั้งด้านเคมี ชีวเคมี และจุลชีววิทยาสำหรับการลงทะเบียนอาหารและยา รวมถึงการวิเคราะห์ทางโภชนาการ การวิเคราะห์ส่วนประกอบอาหารและสิ่งปนเปื้อนตามมาตรฐานภายในประเทศ และมาตรฐานสากล, บริการวิเคราะห์และทดสอบสารโพลิฟีนอล Polyphenols ในอาหารเสริม ที่นิยมใช้ในวัตถุดิบในกระบวนการผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์การเกษตร เช่น การตรวจหาสารปนเปื้อนในอาหารและในสมุนไพร และมีศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา หรือ MTC (Industrial Metrology and Testing Service Centre) ให้บริการการวิเคราะห์วัสดุสัมผัสอาหารและให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับเทคนิควิธีวิเคราะห์และการติดตั้งระบบวัดคุณภาพรวมถึงห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ISO/IC 17025
2.งานผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร : วว.ได้ให้ความสนับสนุนเทคโนโลยี ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหาร ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ซอสฟักข้าว, ผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการไมเกรนจากสารสกัดเก็กฮวย 4 grain, เมล่อนพลัส ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพจากเมล่อน เสริมโปรไบโอติก, ชาผักหวานป่าสารพัดประโยชน์, ขนมกุยช่ายพร้อมบริโภคสำหรับผู้มีภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือด, ผลิตภัณฑ์ไซรับข้าวไรซ์เบอร์รี่, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเบต้ากลูแคนจากเห็ด, ผลิตภัณฑ์เนยเทียมจากน้ำมันรำข้าว, ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตจากไข่ขาว
3.งานออกใบรับรองและใบอนุญาต : โดยมีบทบาท ดำเนินการจัดเก็บตัวอย่างเพื่อทดสอบ และออกใบรับรอง สำหรับความปลอดภัยอาหารที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. พร้อมดำเนินการทดสอบและออกใบรับรองดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรดีเด่น หรือ GAP (Good Agriculture Practices)
4.งานบริการทดสอบเพื่อภาคอุตสาหกรรม : วว. ให้บริการวิจัยและพัฒนาสำหรับผู้ประกอบการ SMEs OTOP และ วิสาหกิจชุมชน ตลอดจนเกษตรกรที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เพิ่มมูลค่า หรือแก้ปัญหาที่มีอยู่ของผลิตภัณฑ์ โดยครอบคลุมถึงการรับฟังแนวคิดเบื้องต้นของผู้ประกอบการ และนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แม่แบบและวิธีการแก้ปัญหาของผลิตภัณฑ์ด้วย ทั้งนี้ วว. มีศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านต่างๆ ที่ตอบสนองงานวิจัย การพัฒนา และการบริการที่อุตสาหกรรมต่างๆ ต้องการ เช่นเดียวกับความต้องการของภาคเอกชนและชุมชนทั่วไป และพร้อมให้บริการเพื่อยกระดับความสามารถของภาคอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการเข้าถึงความต้องการของชุมชนและประชาชนในท้องถิ่น และสนับสนุนการพัฒนาเพื่อชุมชนโดยช่วยเหลือผู้ประกอบการทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนทั่วประเทศ
“ที่กล่าวมานี้ เป็นผลงานเชิงประจักษ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพียงบางส่วนเท่านั้น สถาบันวิจัยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พร้อมจะก้าวสู่ปีที่ 60 อย่างภาคภูมิใจ และยังคงรักษาความมุ่งมั่นพัฒนา สู่การเป็นองค์กรที่เติบโตเข้มแข็ง เปี่ยมด้วยศักยภาพ ที่พร้อมจะสานพลังความร่วมมือ กับนานาอารยะประเทศ ในงานวิจัย พัฒนา และบริการด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้เกิดสังคมนวัตกรรมอย่างยั่งยืน เพื่อต่อยอดและส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ชุมชน และวิสาหกิจขนาดกลางให้ประสบความสำเร็จ พร้อมหนุนเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ผู้ว่าการ วว. ทิ้งท้าย