เปิดใจ 5 นักแสดงจาก “ขุนพันธ์ 3”
สหมงคลฟิล์ม เปิดตัว 5 คาแร็กเตอร์เดือด นำโดย อนันดา เอเวอริงแฮม, มาริโอ้ เมาเร่อ, โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์, ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา และ เอม ภูมิภัทร ถาวรศิริ ที่ ถูกผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ เลือกมาจัดเต็มความมันส์ไม่มีใครยอมใคร ใน “ขุนพันธ์ 3” ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สาดอาคมถล่มจอ
โดย “อนันดา เอเวอริงแฮม” ที่กลับมาพร้อมกับภารกิจครั้งใหม่นอกจากต้องต่อกรกับเหล่าเสือร้ายชื่อดังแห่งภาคกลางยังจะได้เห็นการพัฒนาของตัวละครนี้ในอีกมิติหนึ่งที่จะทำให้ผู้ชมได้เข้าถึงอีกด้านของตัวละครขุนพันธ์
“10 ปี ของชีวิตผม คือตัวละครขุนพันธ์ 1 ใน 4 ของชีวิตผมที่อยู่กับตัวละครตัวนี้ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของผมไปแล้ว ขุนพันธ์ยังเต็มไปด้วยความดุดัน เราจะได้เห็นแง่มุมในหลากหลายมิติของตัวละครในแง่ความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีเลือดเนื้อ เป็นภาคที่เราจะได้เห็นด้านมนุษย์ที่สุดของท่านขุน แน่นอนว่าในความเป็นหนังขุนพันธ์ ความเดือด แอ็กชัน จัดเต็มในงานสร้างโปรดักชันไม่ขาดหาย แต่พอตัวเรื่องดำเนินมาถึงภาค 3 ทำให้โลกและจักรวาลของขุนพันธ์สามารถขยายขอบเขตและสร้างความซับซ้อนและล้ำลึกขึ้นไปได้อีก”
โดยในขุนพันธ์ 3 ที่มีภารกิจจับตายเสือ 2 คนสุดท้าย คู่ต่อกรคนสำคัญที่ขุนพันธ์จะต้องปะทะความเดือดในครั้งนี้ ผู้กำกับได้เลือก 2 นักแสดง อย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” พลิกบทบาท มาสวมชีวิตเป็น “เสือมเหศวร” และ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” สวมจิตวิญญาณเป็น “เสือดำ”
มาริโอ้ เมาเร่อ ได้เล่าถึงบทบาทของ “เสือมเหศวร” ที่ได้รับว่า
“มเหศวรคือ เสือหนุ่มหัวหน้ากลุ่มเชิ้ตขาว คือคู่ปรับคนสำคัญของ ขุนพันธ์ ที่เข้าร่วมกับกลุ่ม 4 เสือภาคกลาง คือคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบความเหลื่อมล้ำ เป็นเสือที่ฉลาดและเต็มไปด้วยไหวพริบ ว่องไว เหมือนลิงลม พกพระมเหศวรไว้ตลอด มีคาถาเบี่ยงกระสุนได้ บทนี้จะต้องปลอมตัวเปลี่ยนชุดตลอดเวลา เป็นคาแร็กเตอร์ที่มีความหลากหลาย และท้าทายตัวผมเองมาก ๆ ครับ”
ในขณะเดียวกัน โตโน่ ภาคิน ในบท “เสือดำ” ที่เชื่อว่าทุกคนจะคาดไม่ถึงได้เล่าว่า
“เสือดำคือเสือตัวสุดท้าย ที่มีความชัดเจน ตรงไปตรงมา มีศักดิ์ศรี รักพวกพ้อง สักหนุมานที่หน้าอก แขนข้างซ้ายเป็นเสือ มีอาวุธคู่ใจคือ ลูกซองสั้น มีปืนคู่ ฟันก็จะดำเพราะดูดฝิ่นเยอะ แต่จุดเด่นจะมีฟันทอง 2 ซี่ การทำงานครั้งนี้มันทำให้ผมรู้เลยว่า นี่คืองานที่ผมพร้อมจะแลกทุกอย่าง เหงื่อที่ผมมี เลือดที่ผมมี งานแบบนี้ แหละที่เราพร้อมจะไปสู้กับทั่วโลกเขา”
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอีก 2 นักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงที่เข้ามาร่วมสร้างความสมบูรณ์แบบเพื่อปิดไตรภาคในครั้งนี้ นั่นคือ “ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา” นักแสดง, ยูทูบเบอร์สุดฮอต และ สาวอินดี้จาก “ฮาวทูทิ้ง…ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” จับพลิกบทบาทมาถือปืนและเข็มฉีดยาในบท “สาวิตรี” หมอสาวผู้เป็นดั่งดอกฟ้าในชุมเสือ อ่อนโยน และแข็งแกร่ง ไม่แพ้เหล่าบรรดาเสือร้าย
โดย ฟ้า ษริกา เผยว่า “สาวิตรีเป็นหมอที่รักจรรยาบรรรณในการเป็นหมอ มีความเมตตาสูง เขารักษาทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนดี คนจน คนเลว คนชั่วก็รักษา ถูกกองโจรลักพาตัวจับพลัดจับผลูที่ต้องอยู่รวมกับเหล่าชุมโจร เป็นบทที่เรียกได้ว่าสาหัสสากรรจ์ เกิดมาหนูก็ยังไม่เคยเล่นอะไรที่มันโหดร้ายแบบนี้ ล้มลุกคลุกคลาน ลุยกันเต็มที่ค่ะ”
และอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ นั่นคือ ร.อ.ทัตเทพ นายทหารหนุ่มอนาคตไกล เลือดใหม่ของกองทัพที่เปรียบดั่งมือขวาของขุนพันธ์ ถูกส่งให้มาร่วมในภารกิจจับตาย 2 เสือในครั้งนี้ ที่ได้ “เอม ภูมิภัทร ถาวรศิริ” (ONE FOR THE ROAD, นคร-สวรรค์ , อาชญาเกม) นักแสดงหนุ่มรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุด ถูกผกก.โขมการันตีว่า คือนักแสดงรุ่นใหม่มากฝีมือที่ดีทั้งดรามาและแอ็กชัน อย่างเหนือความคาดหมาย โดย เอม ภูมิภัทร เล่าถึงบทบาทที่ได้รับว่า
“ทัตเทพ เป็นนายทหารหนุ่มรุ่นใหม่อนาคตไกล เขาเติบโตมากับวีรกรรมของขุนพันธ์ตั้งแต่เด็ก แต่เขาจะไม่เชื่อเรื่อง วิญญาณ เวทมนตร์คาถา เขาเชื่อในเรื่องยุทธวิธีการสงครามมากกว่า สิ่งที่เขาเชื่อมั่นในการทำภารกิจคือ ไม่เลือกวิธีการที่จะทำให้งานสำเร็จ สามารถใช้อาวุธได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นปืนสั้นปืนยาว อาวุธหนัก อาวุธเบา สามารถใช้ได้หมดครับ”
อดใจรอไม่นานจะได้พบกับบทบาทครั้งสำคัญของนักแสดงทั้ง 5 ที่จะมาร่วมสร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่บนแผ่นฟิล์ม พร้อมทีมงานและนักแสดงกว่า 300 ชีวิต ในภารกิจพิพากษาทุกอาคม ถล่มทุกความคงกระพัน ใน “ขุนพันธ์ 3” สู่วันพิพากษา 2 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์