‘อุตสาหกรรมกัญชงไทย’ ตั้งเป้าลุยตลาดเอเชีย-ยุโรป สร้างโอกาสกลุ่มเวลเนสเติบโต จ่อเปิดเวทีสัมมนา-เจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ Asia international Hemp Expo & Forum 2023
สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TIHTA) เร่งพัฒนามาตรฐานไทยในอุตสาหกรรมกรรมกัญชงสู่ระดับสากล เตรียมสร้างโอกาสใหม่ลุยตลาดเป้าหมายเอเชีย-ยุโรป เจาะกลุ่มเชิงการแพทย์-เวลเนส สู่การเติบโตระยะยาว พร้อมจับมือพันธมิตร บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) เปิดศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เป็นเวทีสัมมนาและเจรจาธุรกิจกัญชงระดับนานาชาติในงาน ‘Asia International Hemp Expo and Forum 2023’ วันที่ 22-25 พ.ย. นี้ คาดผู้เข้าร่วมงานทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 10,000 คน
นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย เปิดเผยว่า โอกาสของอุตสาหกรรมกัญชงนับตั้งแต่ปี 2567 มีแนวโน้มในการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพที่ได้ปัจจัยหนุนจากเทรนด์ Wellness Economy ในหลายประเทศจากทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งภาคธุรกิจเล็งเห็นการพัฒนากัญชงในแนวทางการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในภาพรวม จากคุณสมบัติที่โดดเด่นของพืชกัญชงที่สามารถนำทุกส่วนของพืชมาเป็นวัตถุดิบต่อยอดสู่ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้มากกว่า 20,000 ผลิตภัณฑ์ในหลากหลายอุตสาหกรรม สอดรับแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio economy) โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มทวีปยุโรปและเอเชียที่เริ่มลงทุนศึกษาและวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมและสร้างผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่
นอกจากนี้นานาประเทศเริ่มปรับเปลี่ยนบริบทข้อกำหนดและกฎหมาย โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากกัญชงในด้านการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชนเป็นหลัก โดยส่งเสริมให้มีการจัดจำหน่ายวัตถุดิบช่อดอก, สารสกัดจากกัญชง, เมล็ดพันธุ์ และส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม, ยา, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ,เวชภัณฑ์ และอุตสาหกรรมสิ่งทอและก่อสร้าง เป็นต้น
“ภูมิภาคหลักที่ตื่นตัวเกี่ยวกับกัญชงในตอนนี้คือ ยุโรป เช่น ประเทศเยอรมนี ภาครัฐได้ผลักดันให้เกิดการนำมาใช้ในการรักษามากขึ้น ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่อาจจะมาทดแทนและช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาในด้านสุขภาพ ภูมิภาคเอเชีย เช่น ประเทศญี่ปุ่น ได้ผลักดันผลิตภัณฑ์จาก CBD ให้สามารถวางจำหน่ายในท้องตลาดได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยควบคุมสาร THC ไม่เกินข้อกำหนด ซึ่งพบว่าคนญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจนแบรนด์สินค้า CBD มีมากกว่า 200 แบรนด์แล้วในญี่ปุ่น จากที่ผมกล่าวมาจึงมองว่าตลาดยุโรปและเอเชียที่ยกตัวอย่าง เป็นตลาดที่น่าสนใจ และสร้างโอกาสในการเติบโตได้เป็นอย่างดีสำหรับอุตสาหกรรมกัญชงไทย ส่วนของประเทศไทยจะมุ่งเน้นในการนำสารสำคัญของพืชมาใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ จากข้อมูลของสถาบันกัญชาเพื่อการแพทย์ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประมาณการเกี่ยวกับการใช้ยากัญชาเพื่อการแพทย์แผนปัจจุบัน จากคลินิกกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วประเทศ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2565 ยาTHC จำนวน 13,389 ขวด, ยาCBD จำนวน 9,531 ขวด, ยาTHC:CBD จำนวน 16,021 ขวด และในปี 2566 ( มกราคม-ตุลาคม) ยาTHC จำนวน 15,000 ขวด, ยาCBD จำนวน 12,000 ขวด, ยาTHC:CBD จำนวน 20,000 ขวด สะท้อนว่าการนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงสุขภาพ มีการเติบโตต่อเนื่อง” คุณพรชัย กล่าว
นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) กล่าวว่า “งาน Asia International Hemp Expo & Forum 2023 งานเดียวที่จัดขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมกัญชงโดยเฉพาะในภูมิภาค หนึ่งใน ‘World HEMP Event Calendar’ ของผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการจากทั่วโลกรอคอย โดยเรามุ่งเน้นจัดงานสำหรับผู้ประกอบการกัญชงในระดับอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์จากเส้นใย สารสกัดเพื่อการแพทย์และสุขภาพโดยเฉพาะ ซึ่งการจัดงานนี้จะช่วยตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมกัญชงของภูมิภาค ทั้งในแง่แหล่งผลิตวัตุดิบที่มีคุณภาพ ฐานของการแปรรูป การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงตลาดกลางการเจรจาซื้อขาย คากว่าจะมีเกษตรกร ฟาร์มปลูก ผู้ประกอบการในกระบวนการแปรรูป เจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่มเส้นใยและสารสกัด ไปจนถึงผู้จัดจำหน่ายและนักลงทุนจากทั่วโลกเข้าร่วมชมงานกว่า 10,000 คน”
ขณะที่การจัดงานประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนของงานแสดงสินค้า Asia International Hemp Expo 2023 นำเสนอเทคโนโลยี (Innovation) เพื่อส่งเสริมการสร้างมาตรฐาน นวัตกรรม สำหรับทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตระดับอุตสาหกรรม ตั้งแต่กระบวนการปลูก วัตถุดิบ การบริหารจัดการต้นทุน การแปรรูป ซึ่งรองรับกว่า 14 กลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ อาหารและยา, เครื่องดื่ม, เครื่องสำอาง, แฟชั่น, เฟอร์นิเจอร์, วัสดุก่อสร้าง, ชิ้นส่วนยานยนต์, เชื้อเพลิงชีวภาพ, ยาและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง, การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น โดยมีไฮไลท์ของงานในส่วนการจัดแสดง ‘Hemp for Living’ หรือ ‘กัญชงในชีวิตประจำวัน’ ที่จะเป็นการรวมรวมผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากพืชกัญชง สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน โดย นักออกแบบระดับชาติของไทย และเวทีการเจรจาสร้างช่องทางธุรกิจ การจับคู่พันธมิตรในการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการจากทั้งในและต่างประเทศ (Networking) ซึ่งการจัดงานครั้งที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมงานจากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
ส่วนของงานสัมมนานานาชาติ Asia International Hemp Forum 2023 รวบรวมวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ ของวงการกว่า 40 ท่านจาก 15 ประเทศ ร่วมวงเสวนาใน 14 หัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดของอุตสาหกรรม (Knowledge) ภายใต้แนวคิด ‘HEMP FOR CHANGE’ บริบทของกัญชงในการปรับและเปลี่ยน เพื่อโอกาสและนวัตกรรม สำหรับชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมกัญชงระดับภูมิภาคและระดับโลก ข้อกำหนดและมาตรการต่างๆของแต่ละประเทศ ทิศทางของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมกัญชง ข้อจำกัดในการทำการตลาดสินค้า CBD และ THC คุณสมบัติของพืชกัญชง และบทบาทต่อเป้าหมายการชดเชยปล่อยก๊าซคาร์บอน
นอกจากนี้ ในการจัดงานได้จัดให้มีทริปการศึกษาดูงานแหล่งปลูก ผลิต กัญชงในภูมิภาคต่างๆ ของไทย (Hemp Excursion) เพื่อนำเสนอมาตรฐาน ความก้าวหน้า และศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นในการเจรจาธุรกิจและร่วมลงทุน และส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้เพื่อขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย
สำหรับงาน Asia International Hemp Expo & Forum 2023 ครั้งนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้ขยายพื้นที่การจัดงานเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีบริษัทต่างชาติเข้าร่วมจัดแสดงภายในงานกว่า 10 ประเทศทั่วโลก จึงเป็นงานที่สมบูรณ์ที่สุดในอุตสาหกรรมกัญชง ด้วยความครบครันด้าน Innovation, Knowledge และ Networking สะท้อนความเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมกัญชงของภูมิภาคเอเชียได้อย่างสมบูรณ์ และขับเคลื่อนมาตรฐานประเทศไทยสู่มาตรฐานของภูมิภาคได้ สำหรับผู้ที่สนใจสามาถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน เพื่อยกเว้นค่าเข้าชมงานมูลค่า 500 บาท และติดตามรายละเอียดกำหนดการสัมมนาล่าสุดได้ที่www.asiahempexpo.com